อาชญากรรมในประเทศฟิลิปปินส์ (Aljazeera)

stray bullet

 

วันนี้เรามาดูสารคดี 101 East จาก Aljazeera อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้นักข่าวไปเจาะประเด็นอาชญากรรมในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งว่ากันว่ามีอาชญากรรมมากกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาถึงสามเท่าทีเดียว นักข่าวพยายามหาคำตอบว่าแล้วรัฐบาลจะจัดการอย่างไรกับปัญหานี้

อันเนื่องมาจากที่ประเทศนี้เปิดเสรีในการครอบครองอาวุธปืน ทำให้การมีปืนนั้นเป็นเรื่องปกติมาก โดยมองว่าเพื่อเป็นการปกป้องตนเองจากภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่บางประเทศไม่อนุญาตให้ครอบครองปืนได้เลย เช่นมาเลเซีย และสิงคโปร์

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กน้อยอายุเจ็ดขวบกำลังเป็นวัยที่น่ารักของพ่อแม่ ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลด่วนอันเนื่องมาจากได้รับลูกหลงจากการยิงปืนฉลองปีใหม่ของผู้ใหญ่ สุดท้ายน้องก็ต้องจากโลกนี้ไป น่าจะเข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ของน้องคนนี้ดีว่าเป็นอย่างไร ไม่สามารถดมหามือปืนคนที่ลั่นไกกระสุนมรณะใส่น้อง นี่เป็นเพียงเหตุการ์หนึ่งที่ทางนักข่าวยกตัวอย่างให้เห็นผลที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้ตั้งใจ จากหลาย ๆ เหตุการณ์อันเนื่องมาจากการครอบครองปืน และเกิดการณ์ที่ตั้งใจทำให้เกิดอาชญากรรมและไม่ได้ตั้งใจ

การที่ตำรวจจะติดตามว่าคนไหนมีปืนที่มีใบอนุญาตหรือไม่มี เป็นเรื่องตามกันยากมาก ว่ากันว่าประมาณ 70% ของผู้ที่ครองครองปืนไม่มีใบอนุญาต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจดทะเบียนโดยใช้การจดบันทึก ไม่ได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่เพิ่งจะหันมาใช้คอมพิวเตอร์เร็ว ๆ นี้เอง ซึ่งแน่นอนที่สุดเกิดปัญหาเรื่องการคอรัปชั่น การขอเงินใต้โต๊ะเกิดขึ้น เพราะการขอทะเบียนต้องจ่ายเงินค่อนข้างแพง ปัญหาการลักลอบค้าปืนเถื่อนก็มีให้เห็นกันโดยทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

เห็นที่นักข่าวไปติดตามร้านที่ขายปืน หากันได้ไม่ยากเลย ผมกำลังนึกว่าเห็นร้านที่ขายโทรศัพท์มือถือบ้านเราเลย มีที่ตั้งโชว์ในตู้กระจกแต่เป็นพลาสติก เมื่อชอบและตกลงราคาได้เลย ค่อยเอาของจริงมาให้ ในสารคดียังบอกด้วยราคาปืนต่ำสุดคือประมาณ 50 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาร 1,500 บาท ดูราคาแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง อยากจะเก็บไว้สักกระบอกด้วยมั้ยละครับ

นักข่าวลงไปที่ชุมชนแออัดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นที่ที่เกิดอาชญากรรมรายวันและเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าถึงได้เลย มีแก็งวัยรุ่นมากมายหลายแก็ง ซึ่งเวลาเกิดเหตุการณ์ยิงกันในชุมชนนี้ ชาวชุมชนคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมด้วยซ้ำไป แก็งที่นักข่าวสัมภาษณ์ด้วยคือแก็ง TST ยังเอาปีนมาโชว์ให้ดูด้วย และยังอวดว่าปืนกระบอกนั้นยิงมาแล้วสองศพ แถมก่อนที่นักข่าวจะจากไปแก็งนี้ยังเอากัญชามาสูบโชว์ด้วย

จากนั้นนักข่าว Steve ยังไปพบกันคนขายปืนในสลัมแห่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นคนขายผิดกฎหมาย คนขายเอาออกมาโชว์หลายกระบอก หาซื้อกันง่ายขนาดนั้นเชียวนะ เขาสามารถขายได้ปีละร้อยกว่ากระบอก เดิมเขาประกอบอาชีพเป็นช่างไม้ แต่รายได้ไม่ดี เลยหันมาขายปืนผิดกฎหมายซึ่งทำให้มีรายได้ดีกว่าสามเท่า  เขาไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเลย เพราะเขาต้องการเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ประเด็นหนึ่งที่คนนี้พูดที่น่าสนใจเหมือนกันก็คือว่า เราไม่สามารถฝากชีวิตไว้กับตำรวจได้เลย เราต้องช่วยเหลือตัวเองมากกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ หรือเจ้าหน้าที่ไม่เข้าถึงหรือปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้แล้ว ประชาชนจำเป็นต้องปกป้องตนเอง สิ่งหนึ่งที่ต้องมีนั่นก็คืออาวุธปืน

เหตุการณ์ที่คนขายผลไม้ถูกลูกหลงตาย เหมือนกับว่าการตายแต่ละครั้งไม่ได้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่อะไรมากมาย ค่าของชีวิตพวกเขาทำไมมีน้อยมากเลย หลายคนรวมทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการออกกฎหมายไม่ให้ถือครองอาวุธอย่างเสรีเหมือนตอนนี้ แต่ก็ขยับได้ไม่มากนัก เพราะไปขัดผลประโยชน์ของใครหลาย ๆ คนเช่นนักการเมืองระดับต่าง ๆ พ่อค้าขายอาวุธปืน เป็นต้น

นักข่าวพยายามที่จะถามเรื่องการถือครองอาวุธปืนจากประธานาธิบดีอาร์คีโน ในงานแถลงข่าวแต่ก็โดนห้ามไว้ไม่ให้ถามเรื่องนี้ เพียงบอกว่าค่อนข้าง sensitive จริง ๆ แล้วประธานาธิบดีก็ชอบเล่นปืน บอกว่าเพื่อคลายเครียดจากการทำงาน

Steve ไม่ลดละความพยายามที่จะเจาะถึงว่าแล้วเขาผลิตอาวุธปืนกันที่ไหนกัน เพราะราคาถูกมาก คงไม่ได้นำเข้าทุกกระบอกหรอก ก็เลยไปที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มินดาเนา ถึงขนาดต้องเดินเท้าเข้าไปกว่าจะถึงบ้านคนที่ผลิตปืน แต่เขาเหล่านั้นปิดหน้าปิดตาไม่อยากให้เห็นตัวตนที่แท้จริง ผมยอมรับว่าคนทำข่าวคน ๆ นี้สามารถเจาได้ลึกจริง ๆ คนที่นี่่ได้รับวัฒนธรรมในการผลิตปืนจากเจ้าอาณานิคมสเปน สมัยที่เคยครอบครองฟิลิปปินส์ คนผลิตสามารถลอกเลียนแบบของจริงที่ผลิตในอเมริกา แต่ราคาต่างกันมากมายนัก คือกระบอกละ 50 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 1,500 บาทไทยเท่านั้นเอง (เหมือนราคาปืนของเล่นเด็ก แต่สามารถใช้ยิงจริง ใช้กระสุนจริงได้ด้วย)

ที่น่าสนใจอีกคำถามหนึ่งก็คือว่า แล้วลูกค้าส่วนใหญ่คือใคร คนขายตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าเป็นนักการเมือง ตำรวจ ทหาร ย้ำ ตำรวจและทหารด้วย

ปัญหาการครอบครองอาวุธปืนเสรีอย่างฟิลิปปินส์ รังแต่สร้างปัญหาอย่างไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอรัปชั่น อาชญากรรม ยาเสพติด อิทธิพลอำนวจมืด แก็งวัยรุ่น ปัญหาความยากจน และอื่น ๆ ผมคิดว่าประเทศไทยเราก็มีการครอบครองไม่ยากเช่นเดียวกัน แต่คิดว่าปัญหายังไม่รุนแรงเท่าฟิลิปปินส์

บดินทร์

15 กุมภาพันธ์ 57